พัดลมระบายอากาศ ในห้องไดโน่ (Dynamometer Room) ดียังไง


 

ทำไม “ห้องเทสรถ” ต้องมี พัดลมระบายอากาศ
   1. ระบายไอเสีย (Exhaust Gas) : การสตาร์ทรถในห้องปิด จะเกิด CO, CO₂, NOx, HC ฯลฯ ซึ่งเป็นพิษ ต้องมีระบบดูดและเติมอากาศใหม่เข้าไปเพื่อความปลอดภัย
   2. ควบคุมอุณหภูมิ : เครื่องยนต์และระบบทดสอบ (Dyno, Brake test) สร้างความร้อนสูง พัดลมช่วยให้ห้องไม่ร้อนเกินไปและรักษาสภาพทดสอบให้ใกล้เคียงจริง
   3. จำลองการวิ่งจริงของรถ : ต้องมีพัดลมเป่าไปที่กระจังหน้า (Front cooling fan) เพื่อให้ลมผ่านหม้อน้ำ / Intercooler / Condenser คล้ายเวลาใช้จริงบนถนน
   4. ความปลอดภัย  ถ้าไม่มีการหมุนเวียนอากาศ จะเกิดการสะสมแก๊สพิษ ระเบิดหรือขาดอากาศหายใจได้

วิธีคำนวณปริมาณลม (Airflow) สำหรับเลือกพัดลม

การคำนวณขึ้นอยู่กับ วัตถุประสงค์ ว่าเป็น ระบายห้อง หรือ จำลองลมวิ่ง

1) การคำนวณ Ventilation ห้อง

   ใช้หลัก Air Change per Hour (ACH)

   Q = \frac{V \times ACH}{60}
    • Q = ปริมาณลม (m³/min หรือ CFM)
    • V = ปริมาตรห้อง (กว้าง × ยาว × สูง) m³
    • ACH = จำนวนรอบการเปลี่ยนอากาศต่อชั่วโมง

   ห้องทดสอบรถ ควรใช้ ACH = 20 – 40 (ขึ้นกับระดับไอเสียและความเข้มข้น)

 

2) การคำนวณ พัดลมเป่าหน้ารถ (Cooling fan)

   ต้องการให้ลม ใกล้เคียงความเร็วลมจริงที่รถวิ่ง

   Q = A \times v
     • Q = ปริมาณลมที่ต้องการ (m³/s)
     • A = พื้นที่หน้าตัดพัดลม (m²)
     • v = ความเร็วลมที่ต้องการ (m/s)

📌 ตัวอย่าง: ถ้าต้องการจำลองความเร็วรถ 60 km/h = 16.7 m/s และพัดลมมีหน้าตัด 1.2 × 1.2 m = 1.44 m²

Q = 1.44 \times 16.7 = 24.05 \, m³/s \, \approx 86,600 \, m³/h

ดังนั้นต้องเลือกพัดลมที่จ่ายลมได้ราว 85,000–90,000 m³/h


 • พัดลมระบายห้อง → คำนวณจากปริมาตรห้อง + ACH
 • พัดลมจำลองลมวิ่ง → คำนวณจากหน้าตัดพัดลม × ความเร็วลมที่ต้องการ